วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

เจ้าพ่อประตูผา

                           



เจ้าพ่อประตูผา
 http://thai.tourismthailand.org/fileadmin/upload_img/Attraction/4145/_DSF8412%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%9C%E0%B8%B2_1443371778.jpg

                       เจ้าพ่อประตูผาหรือพระยามือเหล็กเป็นคนบ้านต้า(ปัจจุบันคือบ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง)เป็นเด็กกำพร้าบิดามารดา บวชเรียนป็นศิษย์ของเจ้าอธิการวัดนายาง อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ศึกษาวิชาอยู่ยงคงกระพัน สามารถใช้แขนแทนโล่ห์ได้ เมื่อลาสิกขาออกมา ชาวบ้านจึงเรียกว่า หนานข้อมือเหล็กต่อมาไปเป็นทหารเมืองเขลางค์(ลำปาง) รับใช้เจ้าเมืองลำปางขณะนั้นคือ เจ้าลิ้นก่าน (ลิ้นสีดำ) เพราะมีนิสัยกล้าหาญและมีฝีมือในการรบจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระยามือเหล็ก ต่อมาเมืองเขลางค์ถูกทัพพม่าซึ่งมีท้าวมหายศซึ่งยึดครองเมืองลำพูนรุกราน เจ้าลิ้นก่านพร้อมกับทหารจำนวนหนึ่งและพระยามือเหล็กจึงหนีมาตั้งหลักที่ดอยประตูผา และได้มอบหมายให้ขุนนาง4คนคือ แสนเทพ แสนหนังสือ แสนบุญเรือน และจเรน้อย ดูแลรักษาเมืองอยู่ ขุนนางทั้งสี่ไม่กล้าต่อสู้กับทหารพม่าซึ่งกำลังจะเข้าบุกเมือง เจ้าอธิการวัดนายางจึงรวบรวมชาวบ้านเข้าต่อสู้สกัดทัพพม่า แต่ก็สู้ไม่ได้ต้องแตกหนีกันไป ท้าวมหายศแม่ทัพพม่าจึงส่ง ขุนนาง3คนคือ หารฟ้าฟื้น หารฟ้าแมบ และหาญฟ้าง้ำ เข้ามาเจรจากับฝ่ายเมืองเขลางค์ให้ยอมแพ้ แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ พม่าจึงบุกเข้าเมืองและสังหารขุนนางทั้งสี่ แต่จเรน้อยหนีรอดไปได้และไปสมทหารพม่าไล่ติดตามมาทันที่ดอยประตูผาซึ่งมีภูมิประเทศเป็นหน้าผาสูงชัน มีทางเข้า ออก เพียงทางเดียว พญาข้อมือเหล็กจึงให้จเรน้อยพาเจ้าลิ้นก่านไปหลบอยู่ในถ้ำ และได้เข้าต่อสู้กับทหารพม่าอย่างกล้าหารโดยใช้ดาบสองมือ ทหารพม่าล้มตายลงเป็นอันมาก จนทหารพม่าล่าถอยไปไม่กล้าบุกต่อ พญาข้อมือเหล็กอ่อนแรงถือดาบนั่งพิงหน้าผาคุมเชิงอยู่จนสิ้นใจ ฝ่ายทหารพม่าก็ไม่กล้าบุกเข้ามาเพราะนึกว่าเป็นกลอุบายจึงล่าถอยกลับเมืองเขลางค์ เมื่อเมื่อเจ้าลิ้นก่านและจเรน้อยออกมาจึงพบร่างพญาข้อมือเหล็กสิ้นใจพิงหน้าผาอยู่จึงได้ตั้งศาลเพียงตาและเชิญดวงวิญญาณของพญาข้อมือเหล็กมาสิงสถิตอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความดีและความกล้าหาญไว้ให้บรรพชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงโดยตั้งชื่อว่าศาลพญาข้อมือเหล็กชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่าศาลเจ้าพ่อประตูผา












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น